วาฬตัวเดียวในโลกที่เหงาที่สุดในมหาสมุทร

วาฬตัวเดียวในโลกที่เหงาที่สุดในมหาสมุทร
มาทำความรู้จักกับ วาฬ 52Hz จากวาฬผู้โดดเดี่ยวสู่แรงบันดาลใจให้มนุษย์ วาฬ 52 Hz ถูกเจอครั้งแรกเมื่อราวๆปี ค.ศ. 1989 โดยทหารเรืออเมริกันได้ค้นพบคลื่นความถี่หนึ่งที่แทรกเข้ามาในเครื่องรับสัญญาณของกองทัพ แล้วมันดันแตกต่างไปจากช่วงคลื่นความถี่ที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใช้สื่อสารกันใต้ท้องทะเลโดยวาฬสีน้ำเงินมีความถี่อยู่ที่ 10-40 Hz หรือว่า วาฬฟินเองก็มีความถี่อยู่ที่ 20 Hz
แต่วาฬที่ค้นพบนั้นมีความถี่เสียงที่สูงถึง 52Hz ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเจ้าวาฬนี้เป็นวาฬลูกผสมของวาฬสีน้ำเงินและวาฬฟิน ทำให้ร่างกายอาจผิดแปลกไปจากสายพันธุ์อื่นๆ เลยทำให้คลื่นต่างจากพันธ์อื่นด้วย
วาฬ 52 Hz ความหมายที่ซ่อนอยู่
วาฬ 52Hz กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยว ถูกตีความหมายไปหลายรูปแบบ เช่น บางคนเลือกสักรูปวาฬ 52Hz เพื่อไม่ให้เจ้าวาฬตัวนี้รู้สึกเหงาอีกต่อไป เหมือนมีลายสักวาฬ 52Hz เป็นเพื่อนอีกตัว หรือบางคนตีความในเชิงความรักไว้ว่า วาฬนี้อยู่ได้ด้วยตัวของมันเองอย่างเพียงลำพัง มนุษย์ก็สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองเช่นกัน จนกว่าจะเจอคลื่นความถี่หรือความรักที่เหมาะสมกับตัวเอง
จากวาฬผู้โดดเดี่ยวสู่แรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน
เรื่องราวของวาฬ 52Hz กลายที่เป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจจากทั่วโลก เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานอันน่าทึ่งอีกหลายอย่าง อย่างภาพยนตร์สารคดี The Loneliest Whale : The Search for 52 ของ Josh Zeman บทเพลง Whalien 52 ของวง BTS ศิลปิน K-Pop ชื่อดัง แม้ว่าเรื่องราวของวาฬ 52Hz นั้นจะถูกค้นพบตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 แต่ปัจจุบันเรื่องราวของวาฬตัวนี้ ยังคงถูกพูดถึง สร้างแรงบันดาลใจ สะท้อนความหมายและข้อคิดดีๆ ไว้เสมอ